Blending Modeถ้าหากเพื่อนๆลองคลิ๊กที่ผมวงกลมไว้ จะปรากฏเมนูดังรูปครับ เรียกว่า Blending Mode ซึ่งจะมีตัวเลือกให้เลือกมากมาย แต่โปรแกรมก็จะจัดเป็นกลุ่มๆโดยอาศัยความคล้ายคลึงกันไว้ให้เราแล้วครับ
หนังสือสอนใช้ photoshop หลายๆเล่มที่ผมเคยอ่าน เค้าไม่ได้อธิบายเลยครับว่า แต่ละอันคืออะไร ต่างกันอย่างไร ผมเลยคิดว่าคงมีหลายๆคนอยากรู้เหมือนผมแน่ๆเลย ผมเลยไปค้นหาบทความภาษาอังกฤษอ่านแล้วลองทดสอบด้วยตนเองดู ผลที่ได้ก็ตามนี้ครับ –Normal แบบปกติ ก็จะเห็นภาพทึบๆธรรมดาๆ layerบนจะไม่ปนกับ layer ล่าง |
|
DarkenVS Lighten สองโหมดนี้จะตรงข้ามกัน | MultiplyVSScreen สองโหมดนี้จะตรงข้ามกัน |
– Darken จะเปรียบเทียบระหว่าง layerของตัวเองกับ layer ข้างล่าง อันไหนที่มีค่าสีมืดกว่าก็จะแสดงอันนั้นออกมา | – Multiply เป็นหนึ่งในmodeที่เข้าใจง่าย มันจะผสมสอง layerเข้าด้วยกัน เหมือนกับการใช้ปากกาไฮไลท์ระบายสีในชีวิตจริง มันจะทำให้ภาพสีเข้มขึ้นเท่านั้น ไม่มีทางอ่อนลงโดยใช้ค่าสีจาก layer บน ส่วนไหนที่เป็นสีเข้มก็จะเข้มขึ้นมาก ส่วนตรงไหนที่เป็นสีขาวก็จะไม่มีผล ( มองทะลุเลย ไม่ผสม ) |
– Lighten จะเปรียบเทียบระหว่าง layerของตัวเองกับ layer ข้างล่าง อันไหนที่มีค่าสีสว่างกว่าก็จะแสดงอันนั้นออกมา |
– Screen มันจะผสมสีทำให้ภาพสีอ่อนลงเท่านั้น ไม่มีทางเข้มขึ้นโดยใช้ค่าสีจาก layer บน ส่วนไหนที่เป็นสีขาวมากก็จะอ่อนลงมาก ส่วนตรงไหนที่เป็นสีดำก็จะไม่มีผล |
ถ้าหากยังสับสนระหว่าง Darken กับ Multiply ให้ลอง dulpicate layer ซักอันขึ้นมา แล้วลองปรับเป็น darken ดู
จะพบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ( เพราะว่ามันแสดงแค่ layer เดียวอันใดอันหนึ่งที่เข้มกว่า ภาพจึงออกมาเหมือนเดิม ) |
แต่ถ้าหากใช้ multiply
ผลลัพธ์จะพบว่าภาพเข้มขึ้นเสมอ เพราะมันเอา 2 layer มาผสมกันนั่นเอง ซึ่ง lighten กับ screen ก็ใช้หลักการเดียวกันครับ |
Overlay VS Hard Light คู่แฝดสลับร่าง– Overlay เป็นโหมดที่จะผสมผสานระหว่าง Multiply กับ Screen
ปกติ แต่ถ้าเป็น Overlay มันจะพยายามผสมผสานทั้งคู่ ถ้าlayerข้างล่าง layerที่ถูกblend มีสีเข้มกว่าสีเทา 50% มันก็จะทำการ Screen ถ้าlayerข้างล่าง layerที่ถูกblend มีสีอ่อนกว่าสีเทา 50% มันก็จะทำการ Multiply |
|
– Hard LightHard Lightมันจะทำคล้ายๆกับทำ Overlay ที่เรียง Layer สับที่กันครับ
ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูตัวอย่างข้างล่างนี่ครับ |
|
– Soft Lightคล้ายๆกับ Overlay แต่จะผสมการ blending โดยไม่พยายามคงสภาพของ Hilights และ Shadow ของเดิม | |
Color Dodge VS Color Burn– Color Dodge
คล้ายๆกับ screen โดยจะส่งผลให้ภาพสว่างขึ้น และก็เหมือนใช้ Dodge Tool ละเลงเล่นซะมากกว่า สีดำจะไม่มีผล |
|
– Color Burnตรงข้ามกับ Color Dodge โดยจะส่งผลให้ภาพสีสดสุดๆ และก็เหมือนใช้Burn Tool ละเลงเล่นซะมากกว่า
สีขาวจะไม่มีผล |
|
– Vivid Light เป็นการผสมผสาน Dodge และ Burnจะทำการ Burn หรือ Dodge สี
โดยจะ Burn หาก blend color และจะ Dodge หาก blend color สว่างกว่าสีเทากลาง (50%gray) โดยจะใช้การปรับเปลี่ยน contrast |
|
– Linear Light เหมือนกับ Vivid Light แต่จะใช้การปรับเปลี่ยน Brightness แทน Contrast | |
– Difference เหมือนเป็นการ invertสีโดยจะเปลี่ยนเฉพาะค่า colorไม่ใช่ค่าbrightness ใช้หลักการดังนี้ในแต่ละ channel สีของผลลัพธ์ = | Base color- Blend Color | (คำนวนเอาค่า absoluteพูดง่ายๆคือเอาค่ามากลบค่าน้อยครับ) * ดูค่า Color ได้ที่ Info Palette ครับ ดังนั้นถ้ามีอันใดอันหนึ่งค่าสีเป็นสีขาว(color value 255)ผลที่ได้ก็จะเหมือน invert เลย ถ้าเป็นสีดำ(color value 0)ก็จะไม่มีผลอะไรครับ การสลับลำดับ Layer นั้นไม่มีผลกับ mode นี้ครับ ถ้าเกิดยังงงๆอยู่ ก็ดูภาพอธิบายด้านล่างนี่ครับ |
|
นี่ค่าสีของ Layer บนครับ R=234 , G=116 , B=151 |
อันนี้ค่าสีของ layer ล่างครับ R=73 , G=171 , B=254 |
เมื่อทำการ difference แล้ว pixel ตำแหน่ง X=2.80 Y=3.00R : 234-73 = 161 G : 171-116=55 B : 254-151=103 ถูกต้องใช่ไหมครับ ^ ^ คงจะพอเข้าใจ Difference แล้วสินะครับ – ส่วน Exclusion จะคล้ายๆกัน แต่ว่าจะมี contrast น้อยกว่าครับ |
|
พี่น้องทั้ง4 : Hue , Saturation ,Color , Luminosity – Hueมันจะทำการ blend โดย ใช้ค่าสี ( Hue ) จาก Blend layer แต่จะพยายามใช้ค่า Saturationและ Luminance(Brightness) จาก Base Layer |
|
นี่ค่า HSB ของ Layer บนครับ(blend layer)กดดูได้โดยเลือก palette option ของ info palette ครับ H=342 , S=50 , B=92 |
นี่ค่า HSB ของ Layer ล่างครับ (base layer ) H=208 , S=71 , B=99 |
เมื่อทำการHue แล้ว pixel ตำแหน่ง X=2.80 Y=3.00H:342 = เหมือน blend layer เป๊ะ S: 61= ไม่ตรง… (ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ) B : 100= ไม่ตรงเป๊ะแต่ใกล้เคียง ใครรู้ช่วยบอกทีครับ… |
|
– Saturationคล้ายๆกับ Hue ครับ แต่คราวนี้มันจะทำการ blend โดย
ใช้ค่าความอิ่มสี (Saturation ) จาก Blend layer แต่จะพยายามใช้ค่าHueและ Luminance(Brightness) จาก Base Layer |
|
Blend :H=342 , S=50 , B=92 Base : H=208 , S=71 , B=99ผลลัพธ์ :H=207 , S=54 , B=85 พิสูจน์แล้วไม่ตรงแต่พอใกล้เคียงครับ… |
|
–Colorอันนี้ก็มาแบบเดียวกันอีกแล้วครับ
แต่คราวนี้มันจะทำการ blend โดย ใช้ค่าHueและSaturationจาก Blend layer แต่จะพยายาม ใช้ค่า Brightness จาก Base Layer |
|
Blend :H=342 , S=50 , B=92 Base : H=208 , S=71 , B=99ผลลัพธ์ :H=342 , S=51 , B=90 |
|
–Luminosityคราวนี้มันจะทำการ blend โดย
ใช้ค่าBrightness จาก Blend layer แต่จะพยายาม ใช้ค่า HueและSaturation จาก Base Layer Tips:ใช้กำจัดสีแตกๆที่เกิดจากเวลาทำ sharpen filter ได้ด้วยครับ |
|
Blend :H=342 , S=50 , B=92 Base : H=208 , S=71 , B=99ผลลัพธ์ :H=208 , S=69 , B=100 ตัวอย่างนี้ไม่ตรงนักครับ แต่มันเป็นแบบนี้แหละครับ -_-” ลองพิ |
ข้อมูลดีๆจากคุณ Sira Ekabut
Cradit : http://ra18thangel.exteen.com/20060912/photoshop-tips-5-layer-blending-mode